สุขภาพน่ารู้

เคยสงสัยไหม ทำไมคนโบราณถึงให้ความสำคัญกับ “งาดำ”?

ทำไมคนโบราณถึงให้ความสำคัญกับ "งาดำ"

ในโลกแห่งสมุนไพรและศาสตร์การแพทย์แผนไทย “งาดำ” มิได้เป็นเพียงธัญพืชเมล็ดเล็กสีดำที่โรยอยู่บนขนมหวาน แต่กลับซุกซ่อนคุณค่าทางยาและสรรพคุณอันน่าทึ่งที่สืบทอดกันมาแต่โบราณกาล ในตำรายาสมุนไพรไทย งาดำถูกยกย่องให้เป็น “ยาอายุวัฒนะ” ที่ช่วยบำรุงร่างกาย เสริมสร้างความแข็งแรง และบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์

ตามหลักการแพทย์แผนไทย งาดำมีรส มัน และ หวาน มีฤทธิ์ ร้อนเล็กน้อย ช่วยบำรุงกำลัง บำรุงไขข้อ บำรุงเส้นเอ็น บำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น ลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย อีกทั้งยังช่วยในการขับถ่ายให้สะดวกยิ่งขึ้น ธาตุทั้งสี่ในงาดำนั้นถูกมองว่ามีความสมดุล ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายโดยรวม

ในตำรายาสมุนไพรโบราณ ปรากฏการใช้งาดำอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น:

  • บำรุงกระดูกและข้อ :: งาดำอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูกและฟัน ตำรายาจึงมีการใช้งาดำเพื่อบรรเทาอาการปวดข้อ ป้องกันภาวะกระดูกพรุน โดยมักนำงาดำมาคั่วบดผสมกับสมุนไพรอื่นๆ หรือนำไปทำเป็นน้ำมันงาเพื่อทาและนวดบริเวณที่ปวดเมื่อย
  • บำรุงเส้นผมและผิวพรรณ :: น้ำมันงาดำถูกนำมาใช้ในการบำรุงหนังศีรษะ ลดการหลุดร่วงของเส้นผม ช่วยให้ผมดำเงางาม และบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง ลดความแห้งกร้าน ตำรายาบางตำรับยังแนะนำให้รับประทานงาดำเป็นประจำเพื่อผิวพรรณสดใส
  • เสริมสร้างกำลังและบำรุงธาตุ :: ด้วยรสชาติมันและฤทธิ์ร้อนเล็กน้อย งาดำจึงถูกใช้เป็นยาบำรุงกำลังสำหรับผู้ที่อ่อนเพลีย หรือผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายหลังการเจ็บป่วย มักนำมาปรุงเป็นยาต้ม ยาผง หรือผสมในอาหาร
  • บรรเทาอาการท้องผูก :: น้ำมันในงาดำมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยให้การขับถ่ายสะดวก บรรเทาอาการท้องผูก โดยอาจรับประทานงาดำคั่วบด หรือน้ำมันงาดำ
  • บำรุงระบบประสาทและสมอง :: ในงาดำมีสารสำคัญหลายชนิดที่เชื่อว่ามีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ช่วยให้ความจำดีขึ้น และลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาทในผู้สูงอายุ

ภูมิปัญญาแต่โบราณ ยังมีการนำงาดำมาใช้ในรูปแบบต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น การนำงาดำมาคั่วแล้วรับประทานเป็นของว่าง การนำไปผสมกับข้าวเหนียวมูน การทำเป็นขนมงา หรือการสกัดเป็นน้ำมันงาเพื่อใช้ปรุงอาหารและบำรุงร่างกาย

ถึงแม้ว่าวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่จะมีการศึกษาและค้นพบคุณประโยชน์ต่างๆ ของงาดำมากขึ้น แต่ความรู้และภูมิปัญญาที่สืบทอดมาในตำรายาสมุนไพรไทยก็ยังคงเป็นรากฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าอันหลากหลายของธัญพืชเมล็ดเล็กๆ นี้ การทำความเข้าใจและนำความรู้จากทั้งสองศาสตร์มาประยุกต์ใช้ จะเป็นแนวทางที่น่าสนใจในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมต่อไป

ข้อควรระวัง :: แม้ว่า “งาดำ” จะมีประโยชน์มากมาย แต่การรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ที่มีภาวะบางอย่าง เช่น ท้องเสียง่าย หรือมีประวัติแพ้งา ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนการรับประทานเพื่อความปลอดภัย

“หมอยา…ห้าพันชั่ง”